การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้ คือ แนวทางดำเนินการเรียนการสอนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มี ขั้นตอนเป็นลำดับ ที่ช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ ทั้งกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อย รายบุคคลและนำไปสู่ความสำเร็จจามจุดประสงค์โดยใช้ทรัพยากรและเวลาน้อยที่สุด
สงบ ลักษณะ (2539: 38 – 47) กล่าวถึงการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งได้รวบรวมกระบวนการต่างๆ ไว้ 12 กระบวนการ ดังนี้
- ทักษะกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
- ทักษะกระบวนการปฏิบัติ
- ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณาญาณ
- ทักษะกระบวนการสร้างความตระหนัก
- ทักษะกระบวนการสร้างเจตคติ
- ทักษะกระบวนการสร้างค่านิยม
- ทักษะกระบวนการเรียนความรู้ ความเข้าใจ
- ทักษะกระบวนการเรียนภาษา
- ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น
11. ทักษะกระบวนการกลุ่ม
12. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
นอกจากนั้นยังมีวิธีการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอีกหลายวิธี เช่น วิธีการสอนทางประวัติศาสตร์ วิธีการสอนกระบวนการคิดแบบโยนิโสมนสิการ คิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย คิดแบบคุณค่าแท้ คุณค่าเทียม คิดแบบอริยสัจ 4 การเรียนรู้แบบโครงงาน เป็นต้น
กระบวนการเรียนรู้ต่างๆ มีขั้นตอนไว้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เกิด
ประสิทธิภาพแก่ผู้เรียนมากที่สุด ดังนี้
- ทักษะกระบวนการ สร้างความคิดรวบยอด
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. การสังเกต |
ให้ผู้เรียนได้รับรู้ ข้อมูลและศึกษาด้วยวิธีการต่างๆ โดยใช้สื่อประกอบ
เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดข้อกำหนดเฉพาะด้วยตนเอง |
2. การจำแนกความแตกต่าง |
ให้ผู้เรียนบอกข้อแตกต่างของสิ่งที่รับรู้ และให้เหตุผลในความแตกต่างนั้น |
3. การหาลักษณะร่วม |
ผู้เรียนมองเห็นความเหมือนความเหมือนในภาพรวมของสิ่งที่ได้รับรู้และสรุปเป็นวิธีการ หลักการ คำจำกัดความ นิยามได้ |
4. ระบุชื่อความคิดรวบยอด |
ผู้เรียนได้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่รับรู้ |
5. การทดสอบและนำไปใช้ |
ผู้เรียนได้ทดลอง ทดสอบ สังเกต ทำแบบฝึกหัด ปฏิบัติ เพื่อประเมินความรู้ |
- ทักษะกระบวนการปฏิบัติ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. การสังเกต รับรู้ |
ผู้เรียนได้เห็นตัวอย่างหลากหลายจนเกิดความเข้าใจและสรุปความ
คิดรวบยอด |
2. การทำตามแบบ |
ทำตามตัวอย่างที่แสดงให้เห็นทีละขั้นตอนจากขั้นพื้นฐานไปถึงงานที่ซับซ้อนขึ้น |
3. การทำโดยไม่มีแบบ |
ฝึกปฏิบัติชนิดครบถ้วนกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตนเอง |
4. การฝึกให้เกิดทักษะ
|
ปฏิบัติด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ หรือทำได้โดยอัตโนมัติ อาจจะเป็นงานชิ้นเดิมหรืองานที่คิดขึ้นใหม่ |
8
- ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. การสังเกต |
ให้ผู้เรียนเน้นการทำกิจกรรม รับรู้แบบปรนัยให้เข้าใจ ได้ความคิดรวบยอด
เชื่อมโยง ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ สรุปเป็นใจความสำคัญครบถ้วนตรงตามหลักฐานข้อมูล |
2. การอธิบาย |
ให้ผู้เรียนตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น เชิงเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กำหนด เน้นการใช้เหตุผล หลักการ กฎเกณฑ์ อ้างหลักฐานข้อมูลประกอบให้น่าเชื่อถือ |
3. การรับฟัง |
ให้ผู้เรียนได้ฟังความคิดเห็น ได้ตอบคำถามวิพากษ์ วิจารณ์จากผู้อื่นที่มีความคิดเห็นของตน หรือข้อมูลที่ดีกว่าโดยไม่ใช้อารมณ์ต่อความคิดเห็น |
4. การเชื่อมโยงความ
สัมพันธ์ |
ผู้เรียนได้เปรียบเทียบความแตกต่างและความคล้ายคลึงของสิ่งของต่างๆ ให้สรุปจัดกลุ่มสิ่งที่เป็นพวกเดียวกัน เชื่อมโยงเหตุการณ์ เชิงหาเหตุผล หากฎเกณฑ์การเชื่อมโยงลักษณะอุปมา อุปไมย |
5. วิจารณ์ |
จัดกิจกรรมให้วิเคราะห์เหตุการณ์ คำกล่าว แนวคิด หรือการกระทำแล้วให้จำแนกจุดเด่น จุดด้อย ส่วนดี ส่วนเสีย ส่วนสำคัญ ไม่สำคัญ จากสิ่งนั้นด้วยการยกเหตุผล หลักการมาประกอบการวิจารณ์ |
6. สรุป |
จัดกิจกรรมให้พิจารณาส่วน ประกอบของการกระทำหรือข้อมูลต่างๆที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันแล้ว ให้สรุปผลอย่างตรงและถูกต้องตามหลักฐานข้อมูล |
4. ทักษะกระบวนการสร้างความตระหนัก
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต
|
ให้ข้อมูลที่ต้องการ ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ เอาใจใส่และเห็นคุณค่า |
2. วิจารณ์
|
ให้ตัวอย่าง สถานการณ์ ประสบการณ์ตรงเพื่อให้ผู้เรียนวิเคราะห์ สาเหตุ ผลดี ผลเสีย ที่จะเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้น และระยะยาว |
3. สรุป
|
ผู้เรียนอภิปราย หาข้อมูล หรือหลักฐานมาสนับสนุนคุณค่าของสิ่งที่จะต้องตระหนัก และวางเป้าหมายที่จะพัฒนาตนเองในเรื่องนั้น |
5. ทักษะกระบวนการสร้างเจตคติ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต
|
ผู้เรียนพิจารณาข้อมูล เหตุการณ์ การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการมี
เจตคติที่ไม่ดี |
2. วิเคราะห์
|
ผู้เรียนพิจารณาผลที่เกิดขึ้นตามมา แยกเป็นการกระทำที่เหมาะสมได้ผลตามที่น่าพอใจ การกระทำที่ไม่เหมาะสมตามที่ไม่น่าพอใจ |
3. สรุป
|
ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลเป็นหลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติด้วยเหตุผลของความพอใจ |
6. ทักษะกระบวนการสร้างค่านิยม
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต ตระหนัก
|
ผู้เรียนพิจารณาข้อมูล เหตุการณ์ การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการมี
เจตคติที่ไม่ดี |
2. ประเมินเชิงเหตุผล
|
ผู้เรียนพิจารณาผลที่เกิดขึ้นตามมา แยกเป็นการกระทำที่เหมาะสมได้ผลตามที่น่าพอใจ การกระทำที่ไม่เหมาะสมตามที่ไม่น่าพอใจ |
3. กำหนดค่านิยม
|
ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลเป็นหลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติด้วยเหตุผลของความพอใจ |
4. วางแผนปฏิบัติ
|
กลุ่มช่วยกันกำหนดแนวปฏิบัติในสถานการณ์จริง โดนครูมีส่วนร่วมในการรับทราบกติกา การกระทำ และสำรวจสิ่งที่ผู้เรียนต้องการจะได้รับเมื่อได้กระทำดีแล้ว เช่นการได้ประกาศชื่อให้เป็นที่ยอมรับ |
5. ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
|
ครูให้การเสริมแรงตามกติการะหว่างการปฏิบัติให้ผู้เรียนเกิดความชื่นชมยินดี |
7. ทักษะกระบวนการเรียน ความรู้ ความเข้าใจ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต ตระหนัก
|
ผู้เรียนพิจารณาข้อมูล สาระความรู้ เพื่อสร้างความคิดรวบยอดกระตุ้นให้ตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกต สังเคราะห์ข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการรู้ และกำหนดเป็นวัตถุประสงค์ เป็นแนวทางที่จะแสวงหาคำตอบต่อไป |
2. วางแผนปฏิบัติ
|
ผู้เรียนนำวัตถุประสงค์ หรือคำถามที่ทุกคนสนใจจะหาคำตอบมาวางแผน เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม |
3. ลงมือปฏิบัติ
|
ผู้เรียนกำหนดให้สมาชิกในกลุ่มย่อย ได้แสวงหาคำตอบจากแหล่งความรู้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น ค้นคว้า สัมภาษณ์ ศึกษานอกสถานที่ หา
ข้อมูลจากองค์กรในชุมชน ตามแผนที่วางไว้ |
4. พัฒนาความรู้
ความเข้าใจ
|
นำความรู้ที่ได้มารายงาน และอภิปรายเชิงแปลความหมาย ตีความ ขยายความ นำไปใช้วิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่า |
5. สรุป
|
รวบรวมเป็นสาระที่ควรรู้ บันทึกลงสมุดผู้เรียน |
8. ทักษะกระบวนการเรียนภาษา
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. ทำความเข้าใจสัญลักษณ์
|
ผู้เรียนรับรู้เกี่ยวกับความหมายของคำ กลุ่มคำประโยค สำนวนต่างๆ |
2. สร้างความคิดรวบยอด
|
ผู้เรียนเกิดการเชื่อมโยงความรู้จากประสบการณ์มาสู่ความเข้าใจและเกิดภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนด้วยตนเอง |
3.สื่อความหมาย ความคิด
|
ผู้เรียนถ่ายทอดทางภาษาให้ผู้อื่นเข้าใจ |
4. พัฒนาความสามารถ
|
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามขั้นตอน คือความรู้ ความจำ เข้าใจ นำไปใช้วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าได้ |
9. ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต
|
ผู้เรียนศึกษาข้อมูล รับรู้และทำความเข้าใจในปัญหาจนสามารถสรุป และตระหนักในปัญหานั้น |
2. การวิเคราะห์
|
ผู้เรียนได้อภิปรายหรือแสดงความคิดเห็น เพื่อแยกแยะประเด็นปัญหา สภาพ สาเหตุและลำดับความสำคัญของปัญหา |
3. สร้างทางเลือก
|
ผู้เรียนแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย่างหลากหลาย ซึ่งอาจมีการทดลอง ค้นคว้า ตรวจสอบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบกรณี ที่ให้
ผู้เรียนทำกิจกรรมกลุ่ม ควรมีการกำหนดหน้าที่ในการทำงาน |
4. เก็บข้อมูลประเมินทางเลือก
|
ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามแผนและบันทึกการปฏิบัติงานเพื่อรายงานและ
ตรวจสอบความถูกต้องของทางเลือก |
5. สรุป
|
ผู้เรียนสังเคราะห์ความรู้ด้วยตนเอง อาจจัดทำเป็นรูปของการ
รายงาน |
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. ตระหนักในปัญหาและความจำเป็น |
ครูยกสถานการณ์ตัวอย่างให้ผู้เรียนเข้าใจและตระหนักในปัญหาและความจำเป็นในเรื่องที่ศึกษาหรือเห็นประโยชน์ ความสำคัญของการศึกษาเรื่องนั้น โดยครูอาจนำเสนอเป็นกรณีตัวอย่าง หรือสถานการณ์ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาความขัดแย้งของเรื่องที่ศึกษา โดยใช้สื่อประกอบ เช่น รูปภาพวีดีทัศน์ สถานการณ์จริง กรณีตัวอย่าง สไลด์ ฯลฯ |
2. คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ |
กระตุ้นผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ ตอบคำถาม แบบฝึกหัด ข้อมูลและให้โอกาสผู้เรียนแสดงความคิดเห็นเป็นกลุ่มหรือรายบุคคล |
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น (ต่อ)
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
3. สร้างทางเลือก |
ผู้เรียนแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย่างหลากหลาย โดยร่วมกันคิดเสนอทางเลือกและอภิปรายข้อดี ข้อเสียของทางเลือกนั้นๆ |
4. ประเมินและเลือกทา |
ผู้เรียนตัดสินทางเลือกแนวทางในการแก้ปัญหา โดยร่วมกันสร้างเกณฑ์ที่ต้องคำนึงถึงปัจจัย วิธีดำเนินการ ผลผลิต ข้อจำกัด ความเหมาะสม กาลเทศะเพื่อใช้ในการพิจารณา ตัดสินเลือกแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งอาจใช้วิธีระดมพลังสมอง อภิปราย ศึกษา ค้นคว้า |
5. กำหนดและลำดับ
ขั้นตอนการปฏิบัติ |
ผู้เรียนวางแผนการทำงานของตนเอง หรือกลุ่มอาจใช้ลำดับขั้นตอน
การดำเนินงาน ดังนี้
ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน
กำหนดวัตถุประสงค์
กำหนดขั้นตอนการทำงาน
กำหนดผู้รับผิดชอบ(กรณีทำงานกลุ่ม)
กำหนดระยะเวลาการทำงาน
กำหนดวิธีการประเมินผล |
6. ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
|
ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ด้วยความสมัครใจ ตั้งใจ
มีความกระตือรือร้น และเพลิดเพลินกับการทำงาน |
7. ประเมินระหว่างปฏิบัติ
|
ผู้เรียนได้สำรวจปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานโดยการซักถาม
อภิปรายและเปลี่ยนความคิดเห็น มีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ตามขั้นตอนและตามแผนที่กำหนดไว้ โดยสรุปผลการทำงานแต่ละช่วง แล้วเสนอแนวทางการปรับปรุง การทำงานขั้นต่อไป |
8. ปรับปรุงให้ดีขึ้นเสมอ
|
ผู้เรียนนำผลที่ได้จากการประเมินในแต่ละขั้นตอน มาเป็นแนวทางในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น |
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น (ต่อ)
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
9. ประเมินผลรวมเพื่อให้
เกิดความภูมิใจ |
ผู้เรียนสรุปผลการดำเนินงาน โดยการเปรียบเทียบผลงานกับวัตถุประสงค์ ที่กำหนดไว้และผลพลอยได้อื่นๆซึ่งอาจเผยแพร่ขยาย
ผลงานแก่ผู้อื่น ได้รับรู้ด้วยความเต็มใจและภาคภูมิใจ |
11. ทักษะกระบวนการกลุ่ม
เป็นกระบวนการที่มุ่งให้ผู้เรียนทำงานร่วมกัน โดยเน้นกิจกรรม ดังนี้
- มีผู้นำกลุ่ม ซึ่งผลัดเปลี่ยนกัน
- วางแผน กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการ
- รับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกทุกคนบนพื้นฐานของเหตุผล
- แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ เมื่อมีการปฏิบัติ
- ติดตามผลการปฏิบัติและการปรับปรุง
- ประเมินผลรวมและชื่นชมในผลงานของกลุ่ม
12. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
กระบวนการนี้มีด้วยกัน 2 วิธี คือ
ทักษะการคิดคำนวณ มีขั้นตอนย่อยๆ ดังนี้ สร้างความคิดรวบยอดของคำ นิยามศัพท์ สอนกฎโดยวิธีอุปนัย (สอยจากตัวอย่างไปสู่กฎเกณฑ์ใหม่) ฝึกฝนวินิจฉัย ปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องและเสริมแรง
ทักษะการแก้ปัญหาโจทย์การสอน มีขั้นตอนย่อยๆ ดังนี้ แปลโจทย์ในเชิงภาษา หาวิธีแก้ไขโจทย์ วางแผนปฏิบัติตามขั้นตอน และตรวจสอบคำตอบ
13. วิธีการทางประวัติศาสตร์
วิธีการจัดการเรียนรู้โดยกระบวนการเรียนรู้ด้วยวิธีทางประวัติศาสตร์ (Historical method) เป็นการสอนที่สำคัญที่ให้ผู้เรียนฝึกทักษะในการค้นคว้าหาข้อเท็จจริงและคิดหาเหตุผล หาคำตอบด้วยตนเอง เป็นการพัฒนาความสามารถในการคิดแบบสร้างสรรค์ และวิเคราะห์วิจารณ์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนนำวิธีการศึกษาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ใช้ในการสอนสังคมศึกษาได้ทุกระดับ ขึ้นอยู่กับทักษะ ความพร้อม ที่จะพัฒนาไปอย่างช้าๆ ตามความสามารถและความสนใจ
ในการสอนประวัติศาสตร์มีทฤษฎีที่ใช้เป็นแม่บท คือ การสอนด้วยวิธีทางประวัติศาสตร์ (Historical method) ซึ่งนักประวัติศาสตร์ใช้ในการค้นคว้าหาคำตอบ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นกำหนดปัญหา หรือข้อสมมุติฐาน
เป็นขั้นการสังเกตของผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันเพื่อค้นพบข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องราว
เหตุการณ์หรือพฤติกรรมของบุคคลในประวัติศาสตร์ ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาของบทเรียน
ผู้สอนต้องวางแผน เตรียมการล่วงหน้าเพื่อให้เกิดความพร้อมในการแนะนำผู้เรียนให้เกิดข้อคิดในระหว่างเรียน นำไปสู่การกำหนดปัญหา ถ้าผู้เรียนมีประสบการณ์มาแล้ว อาจจะให้ผู้เรียนเดาคำตอบหรือกำหนดแนวทางเกี่ยวกับคำตอบของปัญหา ในรูปของการกำหนดสมมุติฐาน
2.ขั้นแสวงหาความรู้โดยการรวบรวมหลักฐาน
ขั้นนี้ผู้สอนต้องแนะนำเกี่ยวกับการค้นคว้าบอกแหล่งเรียนรู้เพื่อรวบรวมหลักฐาน
ผู้สอนอาจเตรียมเอกสารเพื่อประกอบการค้นคว้าเกิดความสะดวก เป็นการสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้เรียน ข้อสำคัญต้องมีการจำแนกหลักฐานเป็น 2 ประเภท คือ หลักฐานชั้นต้น เป็นหลักฐานที่เขียนหรือพูดจากประสบการณ์ตรง และหลักฐานชั้นรอง เป็นหลักฐานที่นำหลักฐานชั้นต้นมาเรียบเรียงใหม่
3.ขั้นวิเคราะห์และประเมินคุณค่าข้อมูล
ผู้สอนต้องให้คำแนะนำ และสาธิตวิธีการวิเคราะห์ ประเมินคุณค่าข้อมูลโดยอาศัย
หลักฐาน ซึ่งแบ่งการประเมินคุณค่าเป็น 2 ประเภท คือ การประเมินคุณค่าภายนอก คือ การพิจารณาจากหลักฐานอื่นด้วย และการประเมินคุณค่าภายใน คือ การวิเคราะห์จากเหตุผล ความฉลาด ความรอบรู้ค้นคว้าหาเหตุผล ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริงที่สุด คือขั้นของการสังเคราะห์
4. ขั้นตีความและสังเคราะห์
เป็นขั้นนำหลักฐานที่ผ่านการวิเคราะห์มาประเมินคุณค่า ด้วยการตีความและ
สังเคราะห์เพื่อให้เกิดความเข้าใจข้อเท็จจริง ในรูปของแนวคิดรวบยอด หรือมโนทัศน์ (concept) ของการเรียนรู้
5.ขั้นนำเสนอข้อมูล
เป็นการนำความรู้และแนวคิดที่ผ่านการวิเคราะห์และสังเคราะห์แล้ว มาบรรยาย
อภิปรายสัมมนา การทำรายงาน และอื่นๆ ต่อผู้อื่น เพื่อให้น่าสนใจ มีคุณค่า เร้าใจให้ติดตาม อันเป็นขั้นสุดท้ายของกระบวนการเรียนรู้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้ คือ แนวทางดำเนินการเรียนการสอนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มี
ขั้นตอนเป็นลำดับ ที่ช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ ทั้งกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อย รายบุคคลและนำไปสู่ความสำเร็จจามจุดประสงค์โดยใช้ทรัพยากรและเวลาน้อยที่สุด
สงบ ลักษณะ (2539: 38 – 47) กล่าวถึงการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งได้รวบรวมกระบวนการต่างๆ ไว้ 12 กระบวนการ ดังนี้
- ทักษะกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
- ทักษะกระบวนการปฏิบัติ
- ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณาญาณ
- ทักษะกระบวนการสร้างความตระหนัก
- ทักษะกระบวนการสร้างเจตคติ
- ทักษะกระบวนการสร้างค่านิยม
- ทักษะกระบวนการเรียนความรู้ ความเข้าใจ
- ทักษะกระบวนการเรียนภาษา
- ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น
11. ทักษะกระบวนการกลุ่ม
12. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
นอกจากนั้นยังมีวิธีการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอีกหลายวิธี เช่น วิธีการสอนทางประวัติศาสตร์ วิธีการสอนกระบวนการคิดแบบโยนิโสมนสิการ คิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย คิดแบบคุณค่าแท้ คุณค่าเทียม คิดแบบอริยสัจ 4 การเรียนรู้แบบโครงงาน เป็นต้น
กระบวนการเรียนรู้ต่างๆ มีขั้นตอนไว้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เกิด
ประสิทธิภาพแก่ผู้เรียนมากที่สุด ดังนี้
- ทักษะกระบวนการ สร้างความคิดรวบยอด
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. การสังเกต |
ให้ผู้เรียนได้รับรู้ ข้อมูลและศึกษาด้วยวิธีการต่างๆ โดยใช้สื่อประกอบ
เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดข้อกำหนดเฉพาะด้วยตนเอง |
2. การจำแนกความแตกต่าง |
ให้ผู้เรียนบอกข้อแตกต่างของสิ่งที่รับรู้ และให้เหตุผลในความแตกต่างนั้น |
3. การหาลักษณะร่วม |
ผู้เรียนมองเห็นความเหมือนความเหมือนในภาพรวมของสิ่งที่ได้รับรู้และสรุปเป็นวิธีการ หลักการ คำจำกัดความ นิยามได้ |
4. ระบุชื่อความคิดรวบยอด |
ผู้เรียนได้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่รับรู้ |
5. การทดสอบและนำไปใช้ |
ผู้เรียนได้ทดลอง ทดสอบ สังเกต ทำแบบฝึกหัด ปฏิบัติ เพื่อประเมินความรู้ |
- ทักษะกระบวนการปฏิบัติ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. การสังเกต รับรู้ |
ผู้เรียนได้เห็นตัวอย่างหลากหลายจนเกิดความเข้าใจและสรุปความ
คิดรวบยอด |
2. การทำตามแบบ |
ทำตามตัวอย่างที่แสดงให้เห็นทีละขั้นตอนจากขั้นพื้นฐานไปถึงงานที่ซับซ้อนขึ้น |
3. การทำโดยไม่มีแบบ |
ฝึกปฏิบัติชนิดครบถ้วนกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตนเอง |
4. การฝึกให้เกิดทักษะ
|
ปฏิบัติด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ หรือทำได้โดยอัตโนมัติ อาจจะเป็นงานชิ้นเดิมหรืองานที่คิดขึ้นใหม่ |
8
- ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. การสังเกต |
ให้ผู้เรียนเน้นการทำกิจกรรม รับรู้แบบปรนัยให้เข้าใจ ได้ความคิดรวบยอด
เชื่อมโยง ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ สรุปเป็นใจความสำคัญครบถ้วนตรงตามหลักฐานข้อมูล |
2. การอธิบาย |
ให้ผู้เรียนตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น เชิงเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กำหนด เน้นการใช้เหตุผล หลักการ กฎเกณฑ์ อ้างหลักฐานข้อมูลประกอบให้น่าเชื่อถือ |
3. การรับฟัง |
ให้ผู้เรียนได้ฟังความคิดเห็น ได้ตอบคำถามวิพากษ์ วิจารณ์จากผู้อื่นที่มีความคิดเห็นของตน หรือข้อมูลที่ดีกว่าโดยไม่ใช้อารมณ์ต่อความคิดเห็น |
4. การเชื่อมโยงความ
สัมพันธ์ |
ผู้เรียนได้เปรียบเทียบความแตกต่างและความคล้ายคลึงของสิ่งของต่างๆ ให้สรุปจัดกลุ่มสิ่งที่เป็นพวกเดียวกัน เชื่อมโยงเหตุการณ์ เชิงหาเหตุผล หากฎเกณฑ์การเชื่อมโยงลักษณะอุปมา อุปไมย |
5. วิจารณ์ |
จัดกิจกรรมให้วิเคราะห์เหตุการณ์ คำกล่าว แนวคิด หรือการกระทำแล้วให้จำแนกจุดเด่น จุดด้อย ส่วนดี ส่วนเสีย ส่วนสำคัญ ไม่สำคัญ จากสิ่งนั้นด้วยการยกเหตุผล หลักการมาประกอบการวิจารณ์ |
6. สรุป |
จัดกิจกรรมให้พิจารณาส่วน ประกอบของการกระทำหรือข้อมูลต่างๆที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันแล้ว ให้สรุปผลอย่างตรงและถูกต้องตามหลักฐานข้อมูล |
4. ทักษะกระบวนการสร้างความตระหนัก
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต
|
ให้ข้อมูลที่ต้องการ ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ เอาใจใส่และเห็นคุณค่า |
2. วิจารณ์
|
ให้ตัวอย่าง สถานการณ์ ประสบการณ์ตรงเพื่อให้ผู้เรียนวิเคราะห์ สาเหตุ ผลดี ผลเสีย ที่จะเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้น และระยะยาว |
3. สรุป
|
ผู้เรียนอภิปราย หาข้อมูล หรือหลักฐานมาสนับสนุนคุณค่าของสิ่งที่จะต้องตระหนัก และวางเป้าหมายที่จะพัฒนาตนเองในเรื่องนั้น |
5. ทักษะกระบวนการสร้างเจตคติ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต
|
ผู้เรียนพิจารณาข้อมูล เหตุการณ์ การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการมี
เจตคติที่ไม่ดี |
2. วิเคราะห์
|
ผู้เรียนพิจารณาผลที่เกิดขึ้นตามมา แยกเป็นการกระทำที่เหมาะสมได้ผลตามที่น่าพอใจ การกระทำที่ไม่เหมาะสมตามที่ไม่น่าพอใจ |
3. สรุป
|
ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลเป็นหลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติด้วยเหตุผลของความพอใจ |
6. ทักษะกระบวนการสร้างค่านิยม
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต ตระหนัก
|
ผู้เรียนพิจารณาข้อมูล เหตุการณ์ การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการมี
เจตคติที่ไม่ดี |
2. ประเมินเชิงเหตุผล
|
ผู้เรียนพิจารณาผลที่เกิดขึ้นตามมา แยกเป็นการกระทำที่เหมาะสมได้ผลตามที่น่าพอใจ การกระทำที่ไม่เหมาะสมตามที่ไม่น่าพอใจ |
3. กำหนดค่านิยม
|
ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลเป็นหลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติด้วยเหตุผลของความพอใจ |
4. วางแผนปฏิบัติ
|
กลุ่มช่วยกันกำหนดแนวปฏิบัติในสถานการณ์จริง โดนครูมีส่วนร่วมในการรับทราบกติกา การกระทำ และสำรวจสิ่งที่ผู้เรียนต้องการจะได้รับเมื่อได้กระทำดีแล้ว เช่นการได้ประกาศชื่อให้เป็นที่ยอมรับ |
5. ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
|
ครูให้การเสริมแรงตามกติการะหว่างการปฏิบัติให้ผู้เรียนเกิดความชื่นชมยินดี |
7. ทักษะกระบวนการเรียน ความรู้ ความเข้าใจ
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต ตระหนัก
|
ผู้เรียนพิจารณาข้อมูล สาระความรู้ เพื่อสร้างความคิดรวบยอดกระตุ้นให้ตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกต สังเคราะห์ข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการรู้ และกำหนดเป็นวัตถุประสงค์ เป็นแนวทางที่จะแสวงหาคำตอบต่อไป |
2. วางแผนปฏิบัติ
|
ผู้เรียนนำวัตถุประสงค์ หรือคำถามที่ทุกคนสนใจจะหาคำตอบมาวางแผน เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม |
3. ลงมือปฏิบัติ
|
ผู้เรียนกำหนดให้สมาชิกในกลุ่มย่อย ได้แสวงหาคำตอบจากแหล่งความรู้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น ค้นคว้า สัมภาษณ์ ศึกษานอกสถานที่ หา
ข้อมูลจากองค์กรในชุมชน ตามแผนที่วางไว้ |
4. พัฒนาความรู้
ความเข้าใจ
|
นำความรู้ที่ได้มารายงาน และอภิปรายเชิงแปลความหมาย ตีความ ขยายความ นำไปใช้วิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่า |
5. สรุป
|
รวบรวมเป็นสาระที่ควรรู้ บันทึกลงสมุดผู้เรียน |
8. ทักษะกระบวนการเรียนภาษา
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. ทำความเข้าใจสัญลักษณ์
|
ผู้เรียนรับรู้เกี่ยวกับความหมายของคำ กลุ่มคำประโยค สำนวนต่างๆ |
2. สร้างความคิดรวบยอด
|
ผู้เรียนเกิดการเชื่อมโยงความรู้จากประสบการณ์มาสู่ความเข้าใจและเกิดภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนด้วยตนเอง |
3.สื่อความหมาย ความคิด
|
ผู้เรียนถ่ายทอดทางภาษาให้ผู้อื่นเข้าใจ |
4. พัฒนาความสามารถ
|
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามขั้นตอน คือความรู้ ความจำ เข้าใจ นำไปใช้วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าได้ |
9. ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. สังเกต
|
ผู้เรียนศึกษาข้อมูล รับรู้และทำความเข้าใจในปัญหาจนสามารถสรุป และตระหนักในปัญหานั้น |
2. การวิเคราะห์
|
ผู้เรียนได้อภิปรายหรือแสดงความคิดเห็น เพื่อแยกแยะประเด็นปัญหา สภาพ สาเหตุและลำดับความสำคัญของปัญหา |
3. สร้างทางเลือก
|
ผู้เรียนแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย่างหลากหลาย ซึ่งอาจมีการทดลอง ค้นคว้า ตรวจสอบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบกรณี ที่ให้
ผู้เรียนทำกิจกรรมกลุ่ม ควรมีการกำหนดหน้าที่ในการทำงาน |
4. เก็บข้อมูลประเมินทางเลือก
|
ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามแผนและบันทึกการปฏิบัติงานเพื่อรายงานและ
ตรวจสอบความถูกต้องของทางเลือก |
5. สรุป
|
ผู้เรียนสังเคราะห์ความรู้ด้วยตนเอง อาจจัดทำเป็นรูปของการ
รายงาน |
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
1. ตระหนักในปัญหาและความจำเป็น |
ครูยกสถานการณ์ตัวอย่างให้ผู้เรียนเข้าใจและตระหนักในปัญหาและความจำเป็นในเรื่องที่ศึกษาหรือเห็นประโยชน์ ความสำคัญของการศึกษาเรื่องนั้น โดยครูอาจนำเสนอเป็นกรณีตัวอย่าง หรือสถานการณ์ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาความขัดแย้งของเรื่องที่ศึกษา โดยใช้สื่อประกอบ เช่น รูปภาพวีดีทัศน์ สถานการณ์จริง กรณีตัวอย่าง สไลด์ ฯลฯ |
2. คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ |
กระตุ้นผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ ตอบคำถาม แบบฝึกหัด ข้อมูลและให้โอกาสผู้เรียนแสดงความคิดเห็นเป็นกลุ่มหรือรายบุคคล |
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น (ต่อ)
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
3. สร้างทางเลือก |
ผู้เรียนแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย่างหลากหลาย โดยร่วมกันคิดเสนอทางเลือกและอภิปรายข้อดี ข้อเสียของทางเลือกนั้นๆ |
4. ประเมินและเลือกทา |
ผู้เรียนตัดสินทางเลือกแนวทางในการแก้ปัญหา โดยร่วมกันสร้างเกณฑ์ที่ต้องคำนึงถึงปัจจัย วิธีดำเนินการ ผลผลิต ข้อจำกัด ความเหมาะสม กาลเทศะเพื่อใช้ในการพิจารณา ตัดสินเลือกแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งอาจใช้วิธีระดมพลังสมอง อภิปราย ศึกษา ค้นคว้า |
5. กำหนดและลำดับ
ขั้นตอนการปฏิบัติ |
ผู้เรียนวางแผนการทำงานของตนเอง หรือกลุ่มอาจใช้ลำดับขั้นตอน
การดำเนินงาน ดังนี้
ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน
กำหนดวัตถุประสงค์
กำหนดขั้นตอนการทำงาน
กำหนดผู้รับผิดชอบ(กรณีทำงานกลุ่ม)
กำหนดระยะเวลาการทำงาน
กำหนดวิธีการประเมินผล |
6. ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
|
ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ด้วยความสมัครใจ ตั้งใจ
มีความกระตือรือร้น และเพลิดเพลินกับการทำงาน |
7. ประเมินระหว่างปฏิบัติ
|
ผู้เรียนได้สำรวจปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานโดยการซักถาม
อภิปรายและเปลี่ยนความคิดเห็น มีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ตามขั้นตอนและตามแผนที่กำหนดไว้ โดยสรุปผลการทำงานแต่ละช่วง แล้วเสนอแนวทางการปรับปรุง การทำงานขั้นต่อไป |
8. ปรับปรุงให้ดีขึ้นเสมอ
|
ผู้เรียนนำผลที่ได้จากการประเมินในแต่ละขั้นตอน มาเป็นแนวทางในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น |
10. ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น (ต่อ)
ขั้นตอน |
แนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้
|
9. ประเมินผลรวมเพื่อให้
เกิดความภูมิใจ |
ผู้เรียนสรุปผลการดำเนินงาน โดยการเปรียบเทียบผลงานกับวัตถุประสงค์ ที่กำหนดไว้และผลพลอยได้อื่นๆซึ่งอาจเผยแพร่ขยาย
ผลงานแก่ผู้อื่น ได้รับรู้ด้วยความเต็มใจและภาคภูมิใจ |
11. ทักษะกระบวนการกลุ่ม
เป็นกระบวนการที่มุ่งให้ผู้เรียนทำงานร่วมกัน โดยเน้นกิจกรรม ดังนี้
- มีผู้นำกลุ่ม ซึ่งผลัดเปลี่ยนกัน
- วางแผน กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการ
- รับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกทุกคนบนพื้นฐานของเหตุผล
- แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ เมื่อมีการปฏิบัติ
- ติดตามผลการปฏิบัติและการปรับปรุง
- ประเมินผลรวมและชื่นชมในผลงานของกลุ่ม
12. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
กระบวนการนี้มีด้วยกัน 2 วิธี คือ
ทักษะการคิดคำนวณ มีขั้นตอนย่อยๆ ดังนี้ สร้างความคิดรวบยอดของคำ นิยามศัพท์ สอนกฎโดยวิธีอุปนัย (สอยจากตัวอย่างไปสู่กฎเกณฑ์ใหม่) ฝึกฝนวินิจฉัย ปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องและเสริมแรง
ทักษะการแก้ปัญหาโจทย์การสอน มีขั้นตอนย่อยๆ ดังนี้ แปลโจทย์ในเชิงภาษา หาวิธีแก้ไขโจทย์ วางแผนปฏิบัติตามขั้นตอน และตรวจสอบคำตอบ
13. วิธีการทางประวัติศาสตร์
วิธีการจัดการเรียนรู้โดยกระบวนการเรียนรู้ด้วยวิธีทางประวัติศาสตร์ (Historical method) เป็นการสอนที่สำคัญที่ให้ผู้เรียนฝึกทักษะในการค้นคว้าหาข้อเท็จจริงและคิดหาเหตุผล หาคำตอบด้วยตนเอง เป็นการพัฒนาความสามารถในการคิดแบบสร้างสรรค์ และวิเคราะห์วิจารณ์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนนำวิธีการศึกษาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ใช้ในการสอนสังคมศึกษาได้ทุกระดับ ขึ้นอยู่กับทักษะ ความพร้อม ที่จะพัฒนาไปอย่างช้าๆ ตามความสามารถและความสนใจ
ในการสอนประวัติศาสตร์มีทฤษฎีที่ใช้เป็นแม่บท คือ การสอนด้วยวิธีทางประวัติศาสตร์ (Historical method) ซึ่งนักประวัติศาสตร์ใช้ในการค้นคว้าหาคำตอบ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นกำหนดปัญหา หรือข้อสมมุติฐาน
เป็นขั้นการสังเกตของผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันเพื่อค้นพบข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องราว
เหตุการณ์หรือพฤติกรรมของบุคคลในประวัติศาสตร์ ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาของบทเรียน
ผู้สอนต้องวางแผน เตรียมการล่วงหน้าเพื่อให้เกิดความพร้อมในการแนะนำผู้เรียนให้เกิดข้อคิดในระหว่างเรียน นำไปสู่การกำหนดปัญหา ถ้าผู้เรียนมีประสบการณ์มาแล้ว อาจจะให้ผู้เรียนเดาคำตอบหรือกำหนดแนวทางเกี่ยวกับคำตอบของปัญหา ในรูปของการกำหนดสมมุติฐาน
- ขั้นแสวงหาความรู้โดยการรวบรวมหลักฐาน
ขั้นนี้ผู้สอนต้องแนะนำเกี่ยวกับการค้นคว้าบอกแหล่งเรียนรู้เพื่อรวบรวมหลักฐาน
ผู้สอนอาจเตรียมเอกสารเพื่อประกอบการค้นคว้าเกิดความสะดวก เป็นการสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้เรียน ข้อสำคัญต้องมีการจำแนกหลักฐานเป็น 2 ประเภท คือ หลักฐานชั้นต้น เป็นหลักฐานที่เขียนหรือพูดจากประสบการณ์ตรง และหลักฐานชั้นรอง เป็นหลักฐานที่นำหลักฐานชั้นต้นมาเรียบเรียงใหม่
- ขั้นวิเคราะห์และประเมินคุณค่าข้อมูล
ผู้สอนต้องให้คำแนะนำ และสาธิตวิธีการวิเคราะห์ ประเมินคุณค่าข้อมูลโดยอาศัย
หลักฐาน ซึ่งแบ่งการประเมินคุณค่าเป็น 2 ประเภท คือ การประเมินคุณค่าภายนอก คือ การพิจารณาจากหลักฐานอื่นด้วย และการประเมินคุณค่าภายใน คือ การวิเคราะห์จากเหตุผล ความฉลาด ความรอบรู้ค้นคว้าหาเหตุผล ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริงที่สุด คือขั้นของการสังเคราะห์
- ขั้นตีความและสังเคราะห์
เป็นขั้นนำหลักฐานที่ผ่านการวิเคราะห์มาประเมินคุณค่า ด้วยการตีความและ
สังเคราะห์เพื่อให้เกิดความเข้าใจข้อเท็จจริง ในรูปของแนวคิดรวบยอด หรือมโนทัศน์ (concept) ของการเรียนรู้
- ขั้นนำเสนอข้อมูล
เป็นการนำความรู้และแนวคิดที่ผ่านการวิเคราะห์และสังเคราะห์แล้ว มาบรรยาย
อภิปรายสัมมนา การทำรายงาน และอื่นๆ ต่อผู้อื่น เพื่อให้น่าสนใจ มีคุณค่า เร้าใจให้ติดตาม อันเป็นขั้นสุดท้ายของกระบวนการเรียนรู้